เรื่องย่อ Zack Snyder’s Justice League จัสติซ ลีก แซ็ค สไนเดอร์
Zack Snyder’s Justice League หรือที่รู้จักในชื่อ Snyder Cut เป็นเวอร์ชันที่ได้รับการปรับปรุงจากภาพยนตร์ Justice League (2017) ตามวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของผู้กำกับ แซ็ค สไนเดอร์ ที่ถูกเปลี่ยนแปลงในระหว่างการสร้างหลังจากที่เขาถอนตัวจากโปรเจกต์ ภาพยนตร์นี้ถูกปล่อยในรูปแบบความยาว 4 ชั่วโมง นำเสนอเรื่องราวแบบสมบูรณ์และลึกซึ้งกว่าเดิม พร้อมเนื้อหาใหม่ที่เสริมเติมให้ผู้ชมเข้าใจและเชื่อมโยงกับตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
เรื่องราวเริ่มต้นหลังเหตุการณ์ใน Batman v Superman: Dawn of Justice ที่ ซูเปอร์แมน (เฮนรี คาวิลล์) เสียชีวิต บรูซ เวย์น/แบทแมน (เบน แอฟเฟล็ก) ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและตั้งใจจะปกป้องโลกอย่างเต็มที่ ได้ร่วมมือกับ ไดอาน่า พรินซ์/วันเดอร์วูแมน (กัล กาด็อต) เพื่อรวบรวมทีมฮีโร่เพื่อเตรียมต่อสู้กับภัยคุกคามที่กำลังมาเยือน
ภัยคุกคามครั้งใหญ่นี้มาจาก สเตพเพนวูล์ฟ และกองทัพพาราเดมอนที่มุ่งหน้าไปยึดครองโลกในนามของ ดาร์คไซด์ วายร้ายที่ทรงพลังจาก Apokolips โดยมีเป้าหมายในการรวบรวม แม่กล่อง (Mother Boxes) เพื่อเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นอาณาจักรแห่งความมืด
ในการรวมทีม บรูซและไดอาน่าได้ชักชวน แบร์รี่ อัลเลน/เดอะ แฟลช (เอซร่า มิลเลอร์), วิกเตอร์ สโตน/ไซบอร์ก (เรย์ ฟิชเชอร์) และ อาเธอร์ เคอร์รี/อควาแมน (เจสัน โมโมอา) มาร่วมต่อสู้ แม้ในตอนแรกทีมจะขาดความสามัคคีและความมั่นใจ แต่ด้วยความเสียสละและความหวังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซูเปอร์แมน ทำให้พวกเขาสามารถรวมพลังเพื่อต่อสู้และปกป้องโลกได้
ภาพยนตร์เวอร์ชันนี้ขยายบทบาทของตัวละคร ไซบอร์ก และ แฟลช ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องราวเบื้องหลังและพัฒนาการของพวกเขา พร้อมทั้งแนะนำตัวละครใหม่อย่าง มาร์เชียน แมนฮันเตอร์ และฉากที่เกี่ยวข้องกับดาร์คไซด์ที่สร้างความเข้มข้นและเชื่อมโยงกับจักรวาลดีซีได้อย่างสมบูรณ์
Zack Snyder’s Justice League เป็นผลงานที่เต็มไปด้วยความมืดมน ลุ่มลึก และฉากแอ็กชันสุดตระการตา ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้กำกับ และมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับแฟนๆ DC และผู้ชมทั่วโลก