Justice League: Crisis on Two Earths จัสติซ ลีก: วิกฤตบนสองโลก

ผู้กองซาร่า เบเลช หน่วยสืบสวนอาชญากรรมตูลูส ติดตามการขนส่งยาที่เชื่อมโยงกับการฆาตกรรมวัยรุ่นสองคน การสืบสวนที่นำโดยริชาร์ด ครอสจากหน่วยอาชญากรรมปารีส ซาร่าและริชาร์ดถูกบังคับให้ร่วมมือกันเพื่อตามหาฆาตกรและหยุดการขนส่งยา แม้ว่าซาร่าและริชาร์ดจะมีวิธีที่แตกต่างกัน ทั้งคู่ต่างต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อติดตามไล่ล่าผู้ร้ายในสเปนและฝรั่งเศส

จิเก็น รู้สึกพ่ายแพ้และมองหาช่างทำปืนที่เก่งที่สุดในโลก ในที่สุดจิเก็นก็พบว่าจิฮารุเป็นเจ้าของร้านนาฬิกาเล็กๆ และเป็นคนที่เขาตามหา จากนั้นจิเก็นก็ได้พบกับหญิงสาวชื่อโอโตะที่มาขอปืนกับชิฮารุ จิเกนค่อยๆ เผยความลับของโอโตะและรู้ว่าองค์กรลึกลับมุ่งเป้าไปที่เธอ หลังจากที่โอโตะถูกศัตรูลักพาตัวไป จิเก็นก็ทุ่มตัวเองเข้าสู่การต่อสู้ที่สิ้นหวังเพื่อช่วยเธอ

เรื่องย่อ เป็นภาพยนตร์สืบสวน-ระทึกขวัญที่เป็นภาคต่อของ Les Rivières pourpres (2000) ซึ่งสร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ ฌอง-คริสตอฟ กร็องเจอ (Jean-Christophe Grangé) เรื่องราวในภาคนี้เริ่มต้นเมื่อ ฌอง-คริสตอฟ (Jean Reno) ผู้ตรวจสอบอาชญากรรมที่มีชื่อเสียงในเมืองฝรั่งเศส ได้รับมอบหมายให้สืบสวนคดีฆาตกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับการค้นพบซากศพที่ถูกทิ้งในสถานที่ห่างไกล ทั้งหมดดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับกลุ่มคนลึกลับที่เกี่ยวข้องกับคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์โบราณและการทำนายภัยพิบัติครั้งใหญ่ ในระหว่างการสืบสวน เขาได้ร่วมมือกับ ด็อกเตอร์เบนจามิน (Benoît Magimel) ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีและคัมภีร์โบราณ เพื่อค้นหาคำตอบเกี่ยวกับคัมภีร์ที่น่าสยดสยองและศพที่ถูกฆ่าภายใต้สัญลักษณ์ลึกลับ

The American Society of Magical Negroes สมาคมพ่อมดนิโกรแห่งอเมริกา เรื่องย่อ ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานความตลกขบขัน การเสียดสี และเวทมนตร์ในแบบที่ไม่เหมือนใคร พร้อมชวนผู้ชมสำรวจประเด็นทางสังคมในมุมมองที่แตกต่างและสนุกสนาน เรื่องราวเสียดสีที่แฝงด้วยอารมณ์ขันและการสะท้อนปัญหาสังคมผ่านโลกแห่งเวทมนตร์ เมื่อสมาคมลับของพ่อมดและแม่มดชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันที่ทรงอิทธิพล ต้องเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างการรักษาประเพณีเก่าแก่และการปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคใหม่ ในขณะที่สมาชิกของสมาคมต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายทั้งจากภายนอกและภายใน อาทิ การแย่งชิงอำนาจ ความลำเอียงทางเชื้อชาติในโลกเวทมนตร์ และการค้นหาความหมายของการเป็น "พ่อมดนิโกร" ในสังคมที่เปลี่ยนแปลง เรื่องราวนี้ยังสำรวจประเด็นเกี่ยวกับความเท่าเทียม การยอมรับในตัวตน และการสร้างพื้นที่สำหรับการแสดงออกถึงวัฒนธรรมของพวกเขา