Diary of a Wimpy Kid: Rodrick Rules ไดอารี่ของเด็กไม่เอาถ่าน 2: เสียทีร็อดดริก

เรื่องย่อ เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่มีเนื้อหาผสมผสานกับความตลกและความสยองขวัญ เรื่องราวเกิดขึ้นในแถบภูเขาและป่าในนอร์เวย์ที่หนาวเย็นและเต็มไปด้วยหิมะ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อกลุ่มนักศึกษาแพทย์กลุ่มหนึ่งตัดสินใจไปเที่ยวพักผ่อนที่กระท่อมห่างไกลในป่าเพื่อหนีจากความเครียดจากการเรียน พวกเขาต้องการเพียงแค่การพักผ่อนและสนุกสนาน แต่เมื่อพวกเขาไปถึงที่หมายกลับพบว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในพื้นที่นี้ เมื่อพวกเขาสำรวจพื้นที่รอบๆ กระท่อม พวกเขาพบกับเรื่องราวที่น่าสยดสยองเกี่ยวกับอดีตที่มืดมนของที่แห่งนี้ ที่นี่เคยเป็นสถานที่ที่ทหารนาซีเคยเข้ามาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และทิ้งเงื่อนงำของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่น่าสยดสยองไปพร้อมกับฝังศพทหารที่เสียชีวิตจากการต่อสู้ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือ ทหารนาซีเหล่านั้นกลับกลายเป็น ซอมบี้ผีดิบ ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งและต้องการแก้แค้น

ชาร์ลี ชีน บรรยายเรื่องราวขณะที่นักแสดงและทีมงานแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวในการสร้างภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์เรื่อง Platoon ภาพยนตร์อิสระทุนต่ำที่ไม่ขึ้นกับสหภาพแรงงานเรื่องนี้คัดเลือกนักแสดงเกือบทั้งหมดเป็นนักแสดงหนุ่มที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักซึ่งกำลังสร้างภาพยนตร์เรื่องแรกของตนเอง ทั้งสองคนแบ่งปันเรื่องราวจากประสบการณ์ของตนเองเกี่ยวกับค่ายฝึกทหารที่แสนทรหด สไตล์การกำกับที่ "ไม่เหมือนใคร" ของโอลิเวอร์ สโตน และสภาพแวดล้อมการถ่ายทำที่โหดร้ายที่หล่อหลอมความเป็นพี่น้องกันชั่วนิรันดร์

เมื่อนักเขียนงานท่องเที่ยวมาปรากฏตัวที่บ้านพักของพ่อ ครอบครัวรัลสตันเลยต้องเนียนเป็นแขกเผื่อจะได้รีวิวดี ๆ จากนักเขียน ส่วนลูซี่ก็ดันไปตกหลุมเจค แขกคนหนึ่งของบ้านพัก แต่เธอบอกความลับกับเขาไม่ได้

The American Society of Magical Negroes สมาคมพ่อมดนิโกรแห่งอเมริกา เรื่องย่อ ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานความตลกขบขัน การเสียดสี และเวทมนตร์ในแบบที่ไม่เหมือนใคร พร้อมชวนผู้ชมสำรวจประเด็นทางสังคมในมุมมองที่แตกต่างและสนุกสนาน เรื่องราวเสียดสีที่แฝงด้วยอารมณ์ขันและการสะท้อนปัญหาสังคมผ่านโลกแห่งเวทมนตร์ เมื่อสมาคมลับของพ่อมดและแม่มดชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันที่ทรงอิทธิพล ต้องเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างการรักษาประเพณีเก่าแก่และการปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคใหม่ ในขณะที่สมาชิกของสมาคมต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายทั้งจากภายนอกและภายใน อาทิ การแย่งชิงอำนาจ ความลำเอียงทางเชื้อชาติในโลกเวทมนตร์ และการค้นหาความหมายของการเป็น "พ่อมดนิโกร" ในสังคมที่เปลี่ยนแปลง เรื่องราวนี้ยังสำรวจประเด็นเกี่ยวกับความเท่าเทียม การยอมรับในตัวตน และการสร้างพื้นที่สำหรับการแสดงออกถึงวัฒนธรรมของพวกเขา